วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความนำ ทฤษฎีผีเปรต-ทฤษฎีดรรชนีเลือกผู้นำ

ความนำ ทฤษฎีผีเปรต-ทฤษฎีดรรชนีเลือกผู้นำ

การวินิจฉัยว่าเป็นคนหรือสัตว์หรือขอเรียกว่า ผีเปรต ซึ่งคำว่า ผี หมายถึงไม่มีสัจจะ และคำว่า เปรต หมายถึง อยากได้ มีหลายทฤษฎี บางทฤษฎีมีแนวคิดพื้นฐานในทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถบ่งชี้ให้เห็นถึงระดับหรือดีกรีหรือความเข้มข้นของความชั่วร้ายที่สิงอยู่ในร่างกายมนุษย์หรือสัตว์ดุสัตว์ร้ายทั่วไปที่เป็นปกติธรรมดาของธรรมชาติ ทั้งนี้หากไม่สิงสถิตซึ่งความชั่วร้ายแล้วพลังงานหรือมวลสสารจะไม่เกิดการไหลเวียนเปลี่ยนแปลงหรือถ่ายเทพลังงาน หรือเคลื่อนไหว ตรงนี้เราต้องยอมรับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง ไม่สามารถทนอยู่ในสภาพเดิมได้   หรือมันเป็นเช่นนั้นเอง   (ตถตา) ดังมีทฤษฎี ๘ ทฤษฎี ต่อไปนี้:

๑.ทฤษฎีกิเลส(โลภะ โทสะ โมหะ)

๑.ทฤษฎีกิเลส(โลภะ โทสะ โมหะ)

ทฤษฎีนี้จะบอกถึงทิศทางและขนาดหรือปริมาณแห่งความระยำอัปรีย์ผีเปรตในการตักตวงทำลายล้าง คน สัตว์ สิ่งของ  ดิน น้ำ ป่า อากาศ แร่ธาตุ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ในระดับโลภะเริ่มตั้งแต่ กั๊ก กัก เก็บ กอบ โกย โกง โก้ โก๋ โก แอนด์กิ๊ก และโทสะ เริ่มตั้งแต่ ไม่รัก เคือง ทำร้าย ฆ่า สังหาร วายวอด ทั้งหมด เผา และหากมีทิศทางและขนาดหรือปริมาณมากทั้งสามด้านแล้ว ก็เรียกได้ว่า สัตว์ หรืออายสัตว์
(ไม่ควรมีบ้านหลังใหญ่หรือที่ดินมาก และหรือเมียจำนวนมาก หากไม่มีเหตุผลและความจำเป็น เดี๋ยวเขามองไม่ดี)

๒.ทฤษฎีระบบ

๒.ทฤษฎีระบบ

เป็นการวัดการดูดหรือคายพลังงาน(มวลและพลังงานคือสิ่งเดียวกัน)ให้แก่สิ่งแวดล้อมโดยใช้ตนเองเป็นระบบ หากตนเองใช้หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติไว้มากแสดงว่า ท่านใช้พลังงานมาก เช่น ท่านกินปลา ๕ ตัว ดิฉันกิน ๑ ตัว หมายถึงท่านกินถึง ๕ ชีวิตมากกว่าดิฉัน ท่านชอบไม้แกะสลัก ดิฉันชอบไม้ดิบๆ ดังไม้แกะสลักสมัยโบราณหรือกรุงศรีอยุธยามีวิญญาณช่างผสมนอนเนื่องอยู่ หรือพีระมิดอียิปต์ได้ดูดกลืนคนและพลังงานคนหลายชั่วอายุคน หรือทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาล นั้นหมายถึงท่านได้เข้าไปใช้หรือจัดการพลังงานหรือดูดกลืนพลังงานไปเป็นจำนวนมากและขยายวงกว้างไปยังธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ป่า อากาศ แร่ธาตุ พลังงาน หากกระทำกันหลายคนจำนวนมากแล้ว โลกคงอวสาน
(ไม่ควรหลงวัตถุมาก แบ่งผู้อื่นบ้างเพื่อสันติสุข เดี๋ยวจะไม่ได้อยู่กันทั้งหมด โลกแตกแน่)

๓.ทฤษฎีความสืบเนื่อง หรือเรียกว่า จิตวิวัฒน์

๓.ทฤษฎีความสืบเนื่อง หรือเรียกว่า จิตวิวัฒน์

ต้องการชี้ให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวหรือการมีพัฒนาการอย่างมีลำดับเป็นเหตุเป็นผล สามารถสืบสาวหาเหตุปัจจัยได้อย่างโดยชอบโดยธรรมหรือเป็นการมองอัตราการไหลของพลังงานต่อหนึ่งหน่วยเวลา เช่น เป็นแม่ค้าขายส้มอยู่ในตลาดเดียวกันโดยมีตัวแปรอื่นๆคงที่เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่เครื่องชั่ง ใน ๑ วันหรือ ๑ ชม.หรือ ๑ หน่วยเวลา ผู้ใดขายได้เงินมากกว่า แสดงว่าผู้นั้นไม่ดีแน่ หรือเป็นข้าราชการมีตำแหน่งหน้าที่หรือกิจการความรับผิดชอบเหมือนกันแต่โตต่างกัน ตรงนี้ชี้ให้เห็นอะไรบางอย่างที่ซ่อนเร้นหรือปกปิดอยู่ ซึ่งตรงนี้สันนิษฐานไว้ได้ว่า เป็นสิ่งชั่วร้ายหรือขัดต่อศีลธรรม หรือความชอบธรรม

(อย่าโตเร็ว เดี๋ยวคนอื่นสงสัยไปในทางเสียหาย ดิฉันแก่เป็นผู้อำนวยการ แต่ท่านอายุน้อยเป็นอธิบดีแล้ว)

๔.ทฤษฎีไก่ ข ไข่ หรือยาวๆเรียกว่า ทฤษฎี ก ข ค ง จ ....... ร เรือ ล ลิง ..... อ อ่าง ฮ นกฮูก ตาโต หรือ รวยเลว

๔.ทฤษฎีไก่ ข ไข่ หรือยาวๆเรียกว่า ทฤษฎี ก ข ค ง จ ....... ร  เรือ   ลิง ..... อ อ่าง ฮ นกฮูก ตาโต หรือ รวยเลว   

ซึ่งต้องการชี้ให้เห็นว่า ผู้ใดรวยย่อมไม่ดี เว้นแต่จะโดยชอบโดยธรรม หรือเป็นไปโดยสภาพเช่นว่านั้น และหรือพิสูจน์หักล้างให้เห็นเป็นอย่างอื่น ซึ่งโดยส่วนหนึ่งมีนัยมาจากการระดมทรัพยากรธรรมชาติเข้ามามากเพื่อตนและอ้างความชอบธรรมใดๆ เป็นต้นว่าทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง กฎหมาย เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนหรืออ้างว่าซื้อมาบ้าง เป็นของเดิมบ้าง ได้โชคลาภบ้าง ตรงนี้เป็นตัวการหนึ่งที่เร่งหายนะให้เกิดขึ้นแก่มวลมนุษยชาติและสรรพสิ่งทั้งมวล(พลังงาน)หรือนัยหนึ่งเรียกว่ากระบวนการสะสมโลภะ(กัก กั๊ก.....กิ๊ก)และโดยมีโมหะนำ

๕.ทฤษฎีธรรมชาติ หรือทฤษฎีศูนย์สวรรค์

๕.ทฤษฎีธรรมชาติ หรือทฤษฎีศูนย์สวรรค์

 เป็นการวัดระยะห่างหรือการออกห่างจากธรรมชาติไปสู่ความเป็นทันสมัยหรือวัตถุนิยม เช่น ดิฉันมีหรือสร้างบ้านหลังเล็กเป็นกระท่อม ส่วนท่านสร้างด้วยปูนอย่างดี ดิฉันขับขี่รถเก่ามือสอง ท่านขับรถป้ายแดงหรูหรากินน้ำมัน

๖.ทฤษฎีจิตนิยม-วัตถุนิยม หรือทฤษฎีสวรรค์นิยม

๖.ทฤษฎีจิตนิยม-วัตถุนิยม หรือทฤษฎีสวรรค์นิยม

ตรงนี้วัดระดับความเป็นอัตตามากน้อยเพียงใด หากอัตตาน้อยดี หากอัตตามากเป็นคนไม่ดี นั้นหมายถึงหลงใหลในวัตถุธาตุ ความฟุ่มเฟือยหรือกิ๊กซึ่งหมายถึงหญิงหรือชายที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้บำบัดความใคร่เป็นการชั่วคราวของผู้นั้น เนื่องจากกิ๊กจะทำหน้าที่ เสริมสวย หรูหรา แต่งตัว กระตุ้น เร้า เขย่าอารมณ์ และฟุ่มเฟือย ซึ่งมิได้ก่อให้เกิดสินค้าและการบริการแต่กลับเป็น ผู้บริโภคหลัก หรือปริ้นซิปาลคอนซูมเมอร์(Principal Consumers) หรือ ไวโอเลนท์ดีมานด์   (Violent Demands)

๗.ทฤษฎีอำนาจ หรือทฤษฎีอำนาจสวรรค์

๗.ทฤษฎีอำนาจ หรือทฤษฎีอำนาจสวรรค์

ต้องการชี้ให้เห็นถึงการมีหรือการได้มาเพื่อเข้าไปกำหนด จัดการ ควบคุม และกำกับซึ่งพลังงานทั้งหมด(พลังงานหมายถึง คน สัตว์ สิ่งของ ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม)ตามที่ตนเองปรารถนาและต้องการ เช่นผู้นำในประเทศต่างๆบางประเทศที่ปกครองโดยระบอบเผด็จการ  อำนาจคือความชั่วร้าย ความชั่วร้ายสามารถสถาปนาสิ่งใดๆได้ ความดีเป็นเพียงบริวาร และโดยส่วนใหญ่ไม่มีผู้ใดกระทำการใดๆเพื่อผู้อื่นหรือธรรมชาติ หรือสิ่งแวดล้อม หากแต่กระทำลงเพื่อตนและบริวารแห่งตนเท่านั้น ดังนั้นเมื่อใดก็ตามถ้าจะใช้อำนาจต้องอ้างความชอบธรรมขึ้นมาก่อนเพื่อจะได้เป็นที่ยอมรับหรือได้การรับรองจากผู้อยู่ภายใต้อำนาจ เช่น การอ้างกฎหมาย ศาสนา  วัฒนธรรม ประเพณี ความสงบเรียบร้อย ความเป็นระเบียบ ความมั่นคง ความเป็นเอกภาพ หรือสิ่งใดๆตามสภาวะสิ่งนั้นๆ

๘.ทฤษฎียึดมั่นถือมั่น หรือทฤษฎีสวรรค์มันๆ

๘. ทฤษฎียึดมั่นถือมั่น หรือทฤษฎีสวรรค์มันๆ

ผู้ใดยึดมากเลวมาก ยึดน้อยเลวน้อย เป็นต้นว่า นานี้ของท่าน เกาะนี้ก็ของท่าน ทั้งประเทศก็ของท่าน ของท่านทั้งนั้น ไม่มีของเราเลย (เอากันไปหมดเลย)

การวิเคราะห์ผู้ใดเป็นคนหรือสัตว์นั้น ไม่สามารถใช้ทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่งเพียงอย่างเดียวเนื่องจากจะไม่สามารถครอบคลุมชี้ชัดฟันธงได้อย่างแม่นยำว่าจะเป็นสัตว์หรือคน

เมื่อวิเคราะห์ได้แล้วสามารถนำไปใช้ในกระบวนการตัดสินใจเลือกผู้นำท่านต่อไป เป็นต้นว่า การเลือกตั้ง การสรรหา การคัดกรอง ที่สำคัญจะต้องมี ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งภาวนานั้นประกอบด้วยการทำสมาธิและการเจริญปัญญาซึ่งการเจริญปัญญาก็คือฝึกฝนอบรมกระบวนการทำปรโตโฆสะ,โยนิโสมนสิการและไตรลักษณ์ เพื่อลู่เข้าสู่นิพพานอันก่อหรือยังให้เกิดสุขอย่างยิ่งนั้นเอง(ประโยชน์ทฤษฎีผีเปรต)

บทความที่ได้รับความนิยม